เรื่องเกิดที่ วัดพระธรรมกาย
ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดพระธรรมกาย จะก้าวข้ามคำว่า ทำบุญแล้วตนเองจะได้อะไร พวกเขาจะคิดว่า พระพุทธศาสนาจะได้อะไรจากการทำบุญของพวกเขามากกว่า
เหมือนท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ที่ใช้เงินจำนวนมากปูบนที่ดินเพื่อขอซื้อจากเจ้าเชต สร้างวัดเชตวัน ถวายให้แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า (วัดนี้พระพุทธองค์ทรงจำพรรษานานถึง 19 พรรษา คงไม่มีใครว่าพุทธองค์นะ ว่าทำไมไม่ไปจำพรรษาในป่า ติดใจอะไรหรือเปล่า เพราะนั้นคือความคิดพวกเดียร์ถีย์ พวกมิจฉาทิฐิ)
หรือนางวิสาขา ซื้อที่สร้างวัดบุพพาราม 9 โกฎิ สร้างวิหาร 9 โกฎิ ฉลอง 9 โกฎิ รวมเป็น 27 โกฎิ เป็นเงินจำนวนมากมาย และยังสนับสนุนพระภิกษุสงฆ์และงานเผยแผ่อีกมากมาย (สมัยนี้ อาจโดนว่า ทำบุญเอาหน้า แน่ๆ เลย)
หรือแม้แต่ท่านวิสัยหเศรษฐี ทำบุญจนหมดตัว ไปเกี่ยวหญ้ามาขายเอาเงินทำบุญ (หากทำในยุคนี้ คงถูกกระแสสื่อ กระแสสังคมเล่นงานโจมตีต่อว่า ว่าพุทธองค์สอนให้ทำบุญจนหมดตัว)
ท่านมหาเศรษฐีทั้งสามที่ทำแบบนี้ เพราะ ท่านได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า เข้าใจและเข้าถึงธรรม จึงเห็นประโยชน์จากการบริจาคทรัพย์ทำบุญ เพื่อประโยชน์ของพระพุทธศาสนา
จึงไม่แปลกใจว่าทำไม ญาติโยมจึงทำบุญที่วัดพระธรรมกายกันมากมาย ทำกันครั้งละเยอะๆ พวกเขาไม่ได้ทำเพราะความงมงาย แต่ทำเพราะความเข้าใจในคำสอนของพระพุทธศาสนา ศรัทธาในแนวทางการเผยแผ่ประกาศธรรมของหลวงพ่อธัมมชโย ของหมู่คณะวัดพระธรรมกาย และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่สังคม ประเทศชาติและพระศาสนามากกว่า
จึงเลยขั้นตอนที่ว่า ทำบุญแล้วตนเองจะได้อะไร แต่สละทรัพย์ของตนทำบุญแล้ว พระพุทธศาสนาจะได้อะไรมากกว่า...นี่คือ ใจคนทำบุญที่วัดพระธรรมกาย...เรื่องของเรื่อง ก็เป็นเช่นนี้แหละ...เจริญพร
ขอให้โชคดี มีจักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่าง
มีพระรัตนตรัยคุ้มครอง เกิดอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ธรรมสว่างไสว มีใจสะอาดบริสุทธ์ผ่องใส ร่ำรวยกันทุกคน.
มนวีโร ภิกฺขุ
ธรรมะริมทาง ไปที่สุดแห่งธรรม.
04 กรกฎาคม พุทธศักราช 2559
ณ วัดพระธรรมกาย ปทุมธานี
---------------------------------------------
#ธรรมะริมทางไปที่สุดแห่งธรรม
#บารมีไม่มีอนุโมทนานะพี่น้อง
#สมาคมคนรักDMC
#เรารักพระพุทธศาสนา
